รู้จักกับ 4 ระบบชำระล้างของชักโครก
รู้จักกับ 4 ระบบชำระล้างของชักโครก ชักโครกหรือโถสุขภัณฑ์ มีระบบชำระล้างหลากหลาย ซึ่งแต่ละระบบก็มีคุณสมบัติและจุดเด่นแตกต่างกัน ที่เราสามารถเลือกใช้ให้เหมาะสมและตอบโจทย์แต่ละพื้นที่ในบ้านได้ไม่ยาก
วิธีเลือกโถสุขภัณฑ์สำหรับห้องน้ำในบ้านเรา นอกจากจะเลือกรูปแบบรูปทรงที่ชอบ ขนาดเหมาะสม รองรับสรีระร่างกายผู้ใช้ได้อย่างพอดีแล้ว รู้หรือไม่ว่า โถสุขภัณฑ์มีระบบการฟลัชหรือการชำระล้างให้เลือกหลากหลาย ซึ่งแบ่งได้เป็น 4 ระบบสากล เรามาดูกัน ว่าแต่ละระบบมีจุดเด่น หรือจุดสังเกตอะไรบ้าง เพื่อเลือกให้ตอบโจทย์แต่ละพื้นที่ในบ้านกัน ดังนี้
1.“Wash Down” เป็นระบบการชำระล้างที่ใช้น้ำใหม่แทนที่น้ำเก่า ช่วยประหยัดน้ำมากขึ้น
– ข้อดีของระบบนี้คือ หากน้ำไม่ไหล สามารถตักน้ำราดในโถเพื่อการชำระล้างได้เลย
– ข้อควรคำนึงคือ ระบบนี้จะดูดกากเบาไม่ค่อยดี อาจต้องกดชำระถึง 2 ครั้ง เพื่อให้ชำระได้อย่างหมดจด
– จุดสังเกตของระบบนี้คือ ปุ่มกดชำระจะมีทั้งแบบปุ่มกดเดียวด้านข้าง และทุกรุ่นที่มี 2 ปุ่มกดด้านบน (Dual Flush) ที่เลือกได้ว่าจะชำระแบบเบาหรือแบบหนัก
– ลักษณะน้ำในโถ จะมีน้ำที่ค้างในโถเป็นวงเล็กๆ
2.“Siphonic Wash Down” ระบบการชำระล้างที่ใช้หลักการของ “กาลักน้ำ” ช่วยให้เกิดแรงดูดในระบบท่อคอห่าน ใช้น้ำมาตรฐาน 6 ลิตร (มีบางรุ่นใช้ 4.8 ลิตร)
ข้อดีของระบบนี้คือ ชำระล้างดีกว่าระบบ Wash Down ดูดกากเบาได้ดี
– ข้อควรคำนึงคือ เมื่อน้ำไม่ไหลจะไม่สามารถตักน้ำราดแบบระบบ Wash Down ได้ (อาจทำให้น้ำเอ่อล้นมากขึ้น) แนะนำให้เติมน้ำในหม้อน้ำแล้วกดชำระตามปกติ
– จุดสังเกตของระบบนี้คือ มีปุ่มกดเพียง 1 ปุ่มเท่านั้น (Single Flush) ปุ่มกดจะอยู่ด้านบน หรือด้านข้างของหม้อน้ำ ฝั่งซ้ายมือ (ถ้าเราหันหน้าเข้าหาหม้อน้ำ) หากเป็นรุ่นที่ขึ้นรูปทรงไปตามท่อน้ำทิ้งจะเห็นว่าท่อมีลักษณะค่อนข้างคดเคี้ยว
– ลักษณะน้ำในโถ พื้นที่น้ำที่ค้างในโถจะเป็นวงขนาดกลาง
3.“Siphon Jet” ระบบการชำระล้างที่เร็วและแรงกว่าระบบอื่น โดยใช้รูเจ็ตเป็นตัวช่วยส่งน้ำ ทำให้เกิดแรงดูด ปกติใช้น้ำ 6 ลิตร (บางรุ่นอาจใช้น้ำน้อยกว่า 6 ลิตร) มีทั้งแบบโถสุขภัณฑ์ชิ้นเดียวและโถสุขภัณฑ์สองชิ้น
– ข้อดีของระบบนี้คือ มีแรงดูดที่ช่วยให้การชำระล้างได้ดียิ่งขึ้น
– จุดสังเกตของระบบนี้คือ หากเป็นสุขภัณฑ์ชิ้นเดียวจะมีหม้อน้ำสูง มีปุ่มกดเดียวอยู่ด้านข้าง โดยมีรูเจ็ตอยู่ตำแหน่งตรงข้ามคอห่าน (อยู่ตรงข้ามท่อน้ำทิ้งของโถส้วม) เวลาชำระล้างจะมีเสียงค่อนข้างดังกว่ารุ่นอื่น
– ลักษณะน้ำในโถ พื้นที่น้ำที่ค้างในโถเป็นวงขนาดใหญ่
4.“Siphon Vortex” ระบบที่มีการชำระที่ดีที่สุดเมื่อเทียบกับระบบอื่น ใช้น้ำ 6 ลิตร ตามมาตรฐาน มอก.
ข้อดีของระบบนี้คือ มีเสียงเบาขณะกดชำระล้าง จึงเหมาะสำหรับห้องน้ำในห้องนอน ไม่รบกวนคนที่กำลังนอนหลับอยู่นั่นเอง
– จุดสังเกตของระบบนี้คือ เป็นโถสุขภัณฑ์ชิ้นเดียวที่มีถังพักน้ำเตี้ย มีตำแหน่งรูปล่อยน้ำในโถที่ใหญ่กว่าระบบ Siphon Jet โดยจะอยู่ด้านซ้ายของสุขภัณฑ์ (เมื่อหันหน้าเข้าหาสุขภัณฑ์) มีปุ่มกดเดียวอยู่ด้านข้างของสุขภัณฑ์ ขณะกดชำระน้ำจะมีลักษณะเหมือนน้ำวน (สะดือทะเล)
– ลักษณะน้ำในโถ พื้นที่น้ำที่ค้างในโถเป็นวงขนาดใหญ่
นอกจากระบบสากล 4 ระบบข้างต้นแล้ว คอตโต้เองยังมีระบบพิเศษเพิ่มเติมมาอีก 2 ระบบ (จดเป็นลิขสิทธิ์ของคอตโต้เอง) ที่พัฒนาจากระบบเดิมที่มีให้ดียิ่งขึ้น ดังนี้
1. “Triplex Flush” ระบบนี้ถูกพัฒนามาจากระบบ Wash Down เป็นระบบน้ำใหม่แทนที่น้ำเดิม แต่ที่เพิ่มเติมคือ มีรูปล่อยน้ำด้านหลัง 3 จุด (จุดปล่อยน้ำด้านหลังจะมี 3 สาย และมีจุดปล่อยน้ำข้างๆ อีกข้างละ 1 สาย) สายน้ำเหล่านี้จะมาประทะกันที่ด้านหน้าโถ จึงทำความสะอาดได้อย่างทั่วถึง ทำให้การชำระล้างดียิ่งขึ้น และยังช่วยลดโอกาสในการเกิดคราบสกปรกติดค้าง
2. “V-Silent” เป็นระบบที่พัฒนามาจากระบบ Siphon Vortex เดิม โดยเพิ่มรูเจ็ตที่ฝั่งซ้ายหรือฝั่งขวาของโถ และให้มีน้ำเลี้ยงบริเวณขอบโถด้านบนเพิ่มเติม ทำให้ล้างเศษสิ่งสกปรกจากขอบโถลงมาด้วย ใช้น้ำเพียง 4 ลิตรต่อการกดชำระหนึ่งครั้ง จึงประหยัดน้ำมากกว่าระบบ Siphon Vortex เดิม นอกจากนี้ยังทำงานได้เงียบไร้เสียงรบกวน
เมื่อรู้จักกับระบบชำระล้างสุขภัณฑ์แต่ละระบบแล้ว หวังว่าจะช่วยให้เจ้าของบ้านเลือกสุขภัณฑ์ได้ง่ายและตอบโจทย์การใช้งานของแต่ละห้องในบ้านได้ตรงความต้องการมากยิ่งขึ้น
ขอขอบคุณข้อมูลและภาพ : COTTO
รู้จักกับ 4 ระบบชำระล้างของชักโครก ชักโครกหรือโถสุขภัณฑ์ มีระบบชำระล้างหลากหลาย ซึ่งแต่ละระบบก็มีคุณสมบัติและจุดเด่นแตกต่างกัน ที่เราสามารถเลือกใช้ให้เหมาะสมและตอบโจทย์แต่ละพื้นที่ในบ้านได้ไม่ยาก