ทำความเข้าใจหลักการต่อเติมบ้านขั้นเบื้องต้น

ทำความเข้าใจ
หลักการต่อเติมบ้านขั้นเบื้องต้น

ทำความเข้าใจหลักการต่อเติมบ้านขั้นเบื้องต้น

ทำความเข้าใจหลักการต่อเติมบ้านขั้นเบื้องต้น หลายบ้านที่เมื่ออยู่อาศัยไปสักระยะหนึ่ง ความคิดเรื่องการต่อเติมบ้านเพื่อการใช้งานที่สะดวกขึ้นก็ตามมา แต่จริงๆ แล้วยังมีหลักการที่น่านำไปคิดก่อนจะทำการต่อเติมเหล่านี้ เพราะการเติมอาคารใหม่เข้าไปติดกับอาคารเก่า ก่อให้เกิดปัญหาเรื่องการทรุดและการรั่วซึมได้

ทำความเข้าใจหลักการต่อเติมบ้านขั้นเบื้องต้น 1
ภาพจาก http://www.homedec.in.th

นานวันเข้าเมื่อเราใช้ชีวิตอยู่ในบ้านของตัวเองมากขึ้น มีสมาชิกในครอบครัวเข้ามามากขึ้น มีข้าวของเครื่องใช้มากขึ้น ก็ย่อมต้องอยากเพิ่มพื้นที่ใช้สอยภายในบริเวณบ้านของเราให้มากขึ้นตามไปด้วย เพื่อรองรับความต้องการให้ได้เพียงพอ การต่อเติมบ้านจึงเป็นคำตอบอันดับแรกในใจเจ้าของบ้านหลายๆ คน แม้ว่าโดยปกติแล้วการต่อบ้านจะสามารถทำได้ก็ตาม แต่การต่อเติมต้องทำอย่างระมัดระวังและมีความเข้าใจถึงหลักการที่จำเป็นเพราะการต่อเติมแบบไม่มีความรู้และความเข้าใจมาก่อนเลย รังแต่จะก่อให้เกิดปัญหาตามมาได้ในอย่างที่คุณเองก็คาดไม่ถึง หากตอนนี้คุณกำลังสงสัยว่าหลักการเบื้องต้นของการต่อเติมเป็นอย่างไร ลองมาทำความเข้าใจหลักการง่ายๆ กัน

การต่อเติมพื้นที่จอดรถ

เริ่มต้นที่ ที่จอดรถด้านนอก โดยทั่วไปแล้วพื้นที่จอดรถจะใช้พื้นซีเมนต์แบบถ่ายน้ำหนักลงบนพื้นดินโดยตรง หรือพื้นแบบ Slab On Ground เพราะไม่จำเป็นต้องตอกเสาเข็มหรือทำคานสำหรับรับน้ำหนัก และราคาถูก นิยมใช้เป็นพื้นโรงจอดรถ, พื้นทางเดินรอบบ้าน แต่หลักการที่ถูกต้องของการทำพื้น Slab On Ground ต้องเทลงบนพื้นดินแข็งที่สามารถรับน้ำหนักได้อย่างดี ไม่ควรทำลงบนพื้นดินที่ถมใหม่ อย่างที่ดินโครงการบ้านจัดสรรโครงการต่างๆ  ที่จะก่อให้เกิดปัญหาเรื่องการทรุดตัวของพื้นโรงจอดรถตามมาภายหลัง

ดังนั้นการต่อเติมพื้นที่จอดรถโดยใช้การเทพื้น Slab On Ground ต้องตรวจสุขภาพของพื้นดินในบริเวณนั้นให้เรียบร้อยเสียก่อน หากเป็นพื้นดินถมใหม่ที่ไม่มีการบดอัดให้เนื้อดินแน่น จับตัวกันดีแล้ว  ควรเลือกใช้การตอกเข็มพืดเพื่อเข้าไปเสริมการรับน้ำหนักของพื้นแทน และไม่ว่าจะใช้โครงสร้างพื้นแบบใดก็ควรเว้นรอยต่อระหว่างพื้นเดิมกับพื้นคอนกรีตชุดใหม่เอาไว้ เพื่อป้องกันการแตกร้าวจากการทรุดตัวที่ไม่เท่ากันและการขยายตัวเนื่องจากโดนความร้อนอีกด้วย

Tip

ปกติการออกแบบ slab on ground เป็นโครงสร้างพื้นที่วางบนดิน มักจะใช้โครงสร้างลานจอดรถ ลานซักล้าง ลานรอบอาคาร หรือส่วนพื้นอื่นๆ ที่ยอมให้มีการทรุดตัวได้ ควรแยกโครงสร้างตัดขาดจากโครงสร้างหลักไม่ให้มีส่วนที่ต่อเนื่องกันเลย เพื่อป้องกันปัญหาพื้นดินทรุดตัวแล้วจะส่งผลให้เกิดรอยแยกความเสียหายที่โครงสร้างพื้น

การต่อเติมห้องบนพื้นเฉลียงหรือระเบียงทางเดิน

การเพิ่มน้ำหนักโครงสร้างผนังและหลังคาเป็นส่วนต่อเติมจะมีผลต่อโครงสร้างเดิม เจ้าของบ้านต้องปรึกษากับวิศวกรเรื่องประสิทธิภาพการรับน้ำหนักของพื้นเดิมซะก่อน สามารถวางต่อเติมได้เลยหรือไม่ และรองรับได้มากแค่ไหน เพราะหากไม่ตรวจสอบการรับน้ำหนักของพื้นเดิม อาจจะทำให้เกิดความเสี่ยงในความเสียหายต่อโครงสร้างเดิม แผ่นพื้นแตกร้าว พาไปสู่ปัญหาตามอีกมากมาย จากตั้งต้นว่าจะต่อเติมกลับกลายเป็นการเพิ่มเติมปัญหาโครงสร้างให้เราเสียเปล่าๆ

นอกจากเรื่องโครงสร้างการรับน้ำหนักเดิมแล้ว อีกจุดหนึ่งที่จะลืมไปไม่ได้เช่นกัน คือ ตำแหน่งของงานระบบท่อประปา ท่อน้ำทิ้งนั้นอยู่ใต้พื้นเดิมที่เราจะต่อเติมรึป่าว   เจ้าของบ้านต้องปรึกษาวิศวกรงานระบบว่าควรจะแก้ไขย้ายตำแหน่งไปไว้จุดอื่นหรือไม่อย่างไร เพราะถ้าหากจุดที่เราจะต่อเติมนั้นตรงกับตำแหน่งงานระบบใต้พื้นพอดี การจะกลับไปซ่อมแซมงานระบบในตอนที่ต่อเติมห้องใหม่ทับไปแล้วจะเป็นเรื่องยุ่งยากเอาเสียมากๆ เลยทีเดียว

การต่อเติมห้องครัว

คล้ายคลึงกับการต่อเติมห้องบนพื้นเฉลียงหรือระเบียงทางเดิน  คือ ต้องตรวจสอบทั้งประสิทธิภาพการรับน้ำหนักของโครงสร้างและงานระบบท่อประปา ท่อน้ำทิ้งต่างๆ ที่อยู่ด้านล่างพื้นให้ดี ส่วนสำคัญที่ควรเน้นย้ำไว้เสมอ คือ การแยกโครงสร้างส่วนต่อเติมชุดใหม่ออกจากชุดโครงสร้างเดิม ทั้งพื้น ผนัง หลังคา ด้วยการตอกเสาเข็มแยกชุดกัน ระบบโครงสร้างที่ไม่มีเชื่อมต่อกับของเดิมเลยแม้แต่จุดเดียว เว้นรอยต่อระหว่างโครงสร้างทั้ง 2 ชุดเอาไว้แล้วใช้ยาแนวซิลิโคน หรือระบบครอบผนังเพื่อรักษาความยืดหยุ่นของรอยต่อ ป้องกันความเสียหายจากโครงสร้างทรุดตัวไม่เท่ากัน  สำหรับงานท่อระบบในห้องครัวควรใช้วิธีการเดินท่อบนพื้นห้อง ตกแต่งให้สวยงามและไม่เกะกะสวยตาด้วยฉากกั้นหรือเคาท์เตอร์ปิดทับ มีข้อดี คือ เจ้าของบ้านหมดห่วงเรื่องโครงสร้างทรุดตัวลงก็จะไม่สร้างความเสียหาย และสามารถสังเกตเห็นหรือทำการซ่อมแซมได้ง่าย

ถึงแม้เราจะทราบถึงหลักการเบื้องต้นในการต่อเติมแล้ว แต่ในระหว่างการทำงานจริงก็จำเป็นจะต้องอยู่ภายใต้การดูแลของวิศวกรเชี่ยวชาญด้านโครงสร้างอย่างใกล้ชิด เพราะในการต่อเติมอาจจะเกิดปัญหาที่คาดไม่ถึงขึ้นได้ตลอดเวลา การที่มีผู้มีความรู้คอยดูแลจะสามารถแก้ปัญหาที่เกิดขึ้นได้อย่างถูกต้องและทันท่วงที  และยังสร้างความอุ่นใจให้คุณได้อีกด้วย

ใส่ความเห็น

×

Cart