3 วิธี เลือกกระเบื้องเซรามิกสำหรับห้องน้ำ
การเลือกกระเบื้องเซรามิกสำหรับห้องน้ำ ควรเลือกให้ถูกประเภทโดยคำนึงถึงความปลอดภัยเป็นหลัก เหมาะกับขนาดและสไตล์ของแต่ละห้อง และทำความสะอาดง่ายเพื่อสุขอนามัยที่ดี
“กระเบื้องเซรามิก” วัสดุที่นิยมนำมาปูพื้นผนังห้องน้ำ เนื่องจากเป็นวัสดุที่ดูดซึมน้ำน้อย มีความแข็งแรงทนทาน แต่ในท้องตลาดก็มีกระเบื้องเซรามิกให้เลือกหลากหลาย ซึ่งหากต้องการเลือกใช้งานในห้องน้ำที่แทบจะต้องสัมผัสน้ำอยู่ตลอดแล้วละก็ จะมีวิธีเลือกให้เหมาะสม ตอบโจทย์ ปลอดภัยต่อการใช้งาน อีกทั้งดูแลทำความสะอาดง่าย ดังนี้
1.เลือกกระเบื้องเซรามิกให้ถูกประเภทใช้งานและคำนึงถึงความปลอดภัยเป็นหลัก
กระเบื้องเซรามิกสำหรับตกแต่งผิวพื้นผนังมีให้เลือกหลากหลาย สำหรับพื้นซึ่งต้องรองรับน้ำหนักต่างๆ ประเภทกระเบื้องที่ควรเลือกใช้คือ กระเบื้องปูพื้น (Floor Tile) และ กระเบื้องพอร์ซเลน (Porcelain Tile) โดยเลือกกระเบื้องที่มีผิวเรียบ แต่ไม่ลื่น ไม่มันเงา มีค่ากันความลื่น (Slip Resistance) ตั้งแต่ R9-R13 สำหรับพื้นส่วนเปียกแนะนำให้เลือกค่ากันความลื่นตั้งแต่ R10 ขึ้นไป อย่างไรก็ตาม ถึงแม้กระเบื้องที่มีค่ากันความลื่นมากจะยิ่งกันลื่นได้ดี แต่การทำความสะอาดก็จะยากตามไปด้วย รวมถึงคราบฝังแน่นที่เกิดจากคราบไขมันจากร่างกาย คราบสบู่ และแบคทีเรียมาสะสม เมื่อมีมากขึ้นจะเคลือบผิวหน้ากระเบื้องที่อาจทำให้ลื่นและเป็นอันตรายได้ จึงควรหมั่นทำความสะอาดพื้นส่วนเปียกเป็นประจำ เพื่อลดโอกาสเกิดการลื่น *ไม่ควรนำกระเบื้องผนัง (Wall Tile) หรือ โมเสกแก้ว (Glass Mosaic) มาปูพื้น
ส่วนผนังสามารถเลือกใช้กระเบื้องได้ทุกประเภท ทั้งกระเบื้องบุผนัง กระเบื้องปูพื้น กระเบื้องพอร์ซเลน รวมถึงกระเบื้องโมเสกแก้ว ซึ่งสามารถเลือกผิวสัมผัสได้หลากหลาย ทั้งแบบเรียบ ด้าน มันเงา กึ่งเงากึ่งด้าน หรือผิวสัมผัสธรรมชาติ (สัมผัสหยาบหรือขรุขระ) แต่สำหรับผนังส่วนที่ต้องสัมผัสความชื้นบ่อยๆ เช่น ผนังส่วนอาบน้ำ หรือส่วนที่ติดกับอ่างล้างหน้า แนะนำให้เลือกกระเบื้องที่ดูดซึมน้ำต่ำ มีผิวสัมผัสเรียบให้ทำความสะอาดได้ง่าย โดยหมั่นเช็ดให้แห้งอยู่เสมอเพื่อลดคราบฝังแน่นที่ล้างออกยาก
ทั้งนี้มีข้อควรคำนึงในการเลือกใช้กระเบื้องพอร์ซเลน (จะมีน้ำหนักมากกว่ากระเบื้องประเภทอื่นๆ) และกระเบื้องแผ่นใหญ่มาตกแต่งผนัง จะต้องมีการติดตั้งอย่างถูกวิธีตามมาตรฐาน และใช้กาวซีเมนต์คุณภาพสูงที่มีการยึดเกาะดีเยี่ยมเพื่อป้องกันกระเบื้องกระเทาะหรือหลุดร่วงที่อาจเป็นอันตรายกับผู้ใช้งานได้
2.เลือกกระเบื้องให้เหมาะกับขนาดและสไตล์ของห้องน้ำ
เพราะขนาด สีสัน และลวดลายกระเบื้องมีผลต่อความรู้สึก จึงควรเลือกให้สัมพันธ์กับขนาดห้องน้ำแต่ละห้อง สำหรับห้องน้ำขนาดเล็ก ควรเลือกใช้กระเบื้องขนาดเล็กที่จะทำให้ห้องดูกว้างขึ้นและเพิ่มลูกเล่นบางส่วนให้มีรายละเอียดที่น่าสนใจ (นอกจากกระเบื้องขนาดเล็กจะปูง่ายแล้ว ยังไม่ต้องตัดกระเบื้องเยอะอีกด้วย) โดยเลือกสีที่ดูโปร่งโล่งสบายตา เช่น สีโทนอ่อน และอาจแซมด้วยสีสันสดใสหรือลวดลายเล็กๆ บางส่วน ไม่ควรเลือกสีเข้มมืดเพราะจะทำให้ห้องน้ำเล็กดูแคบและอึดอัดยิ่งกว่าเดิม หรือ เลือกกระเบื้องลายทางหรือแผ่นยาว ติดตั้งเรียงในแนวนอนเพื่อให้ห้องน้ำที่แคบดูกว้างขึ้น ส่วนห้องน้ำขนาดใหญ่จะเล่นลูกเล่นได้มากกว่า รวมถึงการเลือกขนาด สีสัน และลวดลายกระเบื้องได้หลากหลายกว่า
รูปแบบ โทนสี และลวดลายกระเบื้องมีให้เลือกมากมาย ซึ่งเราสามารถเลือกให้เหมาะกับสไตล์ห้องน้ำของเรา ให้เป็นไปในแบบที่เราชอบเพื่อจะได้มีความสุขขณะใช้งาน ตัวอย่างสไตล์ห้องน้ำเช่น ห้องน้ำสไตล์โมเดิร์นที่เรียบเท่ สามารถเลือกกระเบื้องโทนขาว เทา ดำ และเพิ่มลูกเล่นบางส่วนได้ ห้องน้ำสไตล์ธรรมชาติ เลือกใช้เป็นกระเบื้องลายไม้ลายหินธรรมชาติ ห้องน้ำสไตล์หรูหราในแบบคลาสสิก เลือกใช้กระเบื้องลายหินอ่อนที่ดูหรูหรา และยังมีอีกหลากหลายสไตล์ที่กระเบื้องสามารถตอบโจทย์ได้ นอกจากนี้ เรายังสามารถเลือกกระเบื้องมา Mix & Match เองให้เป็นสไตล์ของตัวเองในแบบที่เราชอบได้ไม่ซ้ำใครอีกด้วย
3.เลือกกระเบื้องห้องน้ำที่ดูแลทำความสะอาดง่าย เพื่อสุขอนามัยที่ดี
สำหรับห้องน้ำที่เน้นเรื่องสุขอนามัยเป็นพิเศษ โดยเฉพาะห้องน้ำเด็กหรือห้องน้ำของผู้สูงวัย อาจพิจารณาเลือกใช้กระเบื้องรุ่นที่ยับยั้งการเจริญเติบโตของแบคทีเรีย (Hygienic Tile) โดยเฉพาะ หรือเลือกใช้กระเบื้องผิวเรียบเพื่อให้ง่ายต่อการทำความสะอาด หรือแม้แต่การเลือกใช้กระเบื้องแผ่นใหญ่ที่มีรอยต่อยาแนวน้อย รวมถึงเลือกกระเบื้องตัดขอบที่เว้นร่องยาแนวน้อยกว่ากระเบื้องไม่ตัดขอบ โดยเลือกใช้ยาแนวที่มีคุณสมบัติทนความชื้น ทนต่อการกัดกร่อนอัดเป็นสาเหตุของราดำและแบคทีเรียควบคู่กัน
นอกจากวิธีการเลือกกระเบื้องข้างต้นแล้ว สิ่งสำคัญคือการติดตั้งกระเบื้องอย่างถูกวิธีด้วยกาวซีเมนต์แบบเต็มแผ่นด้วยเกรียงหวี (ไม่ปูกระเบื้องแบบซาลาเปาที่จะนำมาซึ่งปัญหาในภายหลัง) เว้นร่องยาแนวอย่างเหมาะสมโดยยาแนวให้เต็มร่อง และเช็ดคราบปูนบนกระเบื้องทุกครั้งที่เลอะขณะปู ทั้งหมดนี้เพื่อช่วยลดการเกิดคราบขาวบนกระเบื้องที่กำจัดได้ยาก และควรหมั่นดูแลทำความสะอาดทุกส่วนของห้องน้ำเป็นประจำด้วยน้ำยาทำความสะอาดที่ไม่มีสารกัดกร่อนรุนแรง รวมถึงให้อากาศสามารถไหลเวียนถ่ายเทได้สะดวก มีแสงธรรมชาติส่องถึงเพื่อช่วยฆ่าเชื้อโรค ห้องน้ำไม่อับชื้น เพื่อให้ห้องน้ำดูใหม่สะอาดตาและมีอนามัยที่ดีอยู่เสมอ
